หมอนรถไฟทุกลูก เหล็กทุกเส้น ที่แลกมาด้วยชีวิต ทางรถไฟสายมรณะ…

ทางรถไฟที่ดูธรรมดาๆที่มีแค่รางปล่าวๆ  ไม่ได้มีเทคโนโลยีอลังการอะไร ไม่ได้ยาวที่สุด ไม่ได้ใหญ่ที่สุด ไม่ได้สูงที่สุด แล้วมาดูอะไรกัน …. นั่นสิ นักท่องเที่ยวหลายต่อหลายแสนคนเค้ามาดูอะไรกัน?

พื้นที่แห่งนี้ ที่เคยเป็นพื้นที่ ที่ต้องแลกมาด้วย ความรักชาติ ความภักดี ความเสียสละ ความโหดร้ายทารุณ ความทุกข์ทรมานและความตาย! และเมื่อความสูญเสียในอดีตเลือนหายไป เหลือไว้เพียงสะพานที่ทอดข้ามผ่านแม่น้ำแควแห่งนี้นี่คือทางรถไฟสายมรณะ…

จะขอเล่าให้ท่านได้ฟังต่อไป…

 

ก่อนจะมาเป็นทางรถไฟสายมรณะ. …

 ปี พ.ศ. 2484 ญี่ปุ่นประกาศสงครามกับสหรัฐอเมริกา อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ และจีน จากนั้น ทัพของญี่ปุ่น ก็เคลื่อนพลถล่มฐานทัพเรือใหญ่ของสหรัฐฯ ที่อ่าวเพิร์ลฮาเบอร์ บนเกาะฮาวาย
ตอนนั้นกองทัพญี่ปุ่นเรืองอำนาจมาก บุกขึ้นเกาะต่างๆ อีกหลายแห่ง ทั้งชวา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ มลายู และอินโดจีน และประเทศไทยด้วย สำหรับไทย ญี่ปุ่น ได้ยื่นบันทึกต่อรัฐบาลไทย เพื่อขอเดินทัพผ่าน เพื่อไปโจมตีนอังกฤษ ที่ตั้งฐานทัพแหลมมลายูและพม่า ญี่ปุ่นขอให้ไทยเปิดทาง แลกกับการไม่ทำลายอธิปไตยของไทย…

ระหว่างเจรจาหาข้อตกลง กองเรือรบญี่ปุ่น เคลื่อนเข้าอ่าวไทย ในคืนวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2484 เกิดเหตุต่อสู้กัน นองเลือด ระหว่างกองทัพทหารญี่ปุ่นและไทย ที่ปัตตานี สงขลา นครศรีธรรมราช และประจวบคีรีขันธ์  คนไทยบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก …

ขณะนั้นจอมพล ป.พิบูลย์สงครามเป็นนายกรัฐมนตรี ท่านสั่งระงับการยิง เมื่อสภาพิเศษของนายพลโตโจ แม่ทัพญี่ปุ่นยื่นบันทึกรอบที่ 2 ต่อรัฐาลไทย โดยจอมพล ป.เห็นว่าการสู้รบตามแนวฝั่งทะเลทำให้ไทยเสียเปรียบต่อญี่ปุ่นมากทั้งด้านอาวุธและกำลังพล จึงตัดสินใจสั่งให้หยุดยิง ยอมให้กองทัพญี่ปุ่นผ่านได้ เมื่อเวลา 7.30 น. ของวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2484

ญี่ปุ่นเริ่มลำเลียงอาวุธยุทโธปกรณ์ เสบียงต่างๆ ผานช่องแคบมะละก ไปยังเมาะละแหม่ง และย่างกุ้ง การลำเลียงทางทะเล ถูกโจมตีด้วยการทิ้งระเบิดจากฝ่ายพันธมิตร จนญี่ปุ่นเปลี่ยนเส้นทางลำเลียงเป็นทางบก โดยการสร้างทางรถไฟ ใช้เส้นทางจากสิงคโปร์ขึ้นมาทางสงขลาถึงกรุงเทพฯและผ่านไปกาญจนบุรี….

ทางรถไฟสายมรณะ สายนี้ถูกสร้างขึ้นระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2  ใช้แรงงานเชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตรและแรงงานกรรมกรทั้งหลายมารวมกันสร้างทางรถไฟสายมรณะ สมัยนั้นรัฐบาลญี่ปุ่นขอยืมเงินจากรัฐบาลไทย เป็นเงิน 4 ล้านบาท (ในอดีตก็เยอะโขนะคะ) ใช้เวลาในการสร้างเสร็จภายใน 1 ปี ขุ่นพระขุ่นเจ้า! จากที่วิศวะกรมะกันคาดคะเนไว้ที่ 4 ปี เริ่มตั้งกะเดือนตุลาคม พ.ศ. 2485 ถึงตุลาคม พ.ศ. 2486  จนกระทั่งทุกวันนี้ยังใช้การได้ดี รถไฟสามารถวิ่งใช้การได้ตามปกติค่ะ  ปู๊นนนน…… ปู๊นนนนน…….

พิกัด : ทางรถไฟสายนี้เริ่มต้นจากสถานีชุมทางหนองปลาดุก อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ผ่านจังหวัดกาญจนบุรีข้ามแม่น้ำแควใหญ่ สะพานข้ามแม่น้ำแควไปทางทิศตะวันตกจนถึงด่านเจดีย์สามองค์ โดยมีเป้าหมายจะสร้างให้ถึงปลายทางที่เมืองทันบูซายัด พม่า ทางรถไฟสายมรณะมีความยาวจากหนองปลาดุกถึงสถานีทันบูซายัดรวม 415 กิโลเมตร …..

 

 

 

ที่มาของชื่อ “ทางรถไฟสายมรณะ”

ที่มาคือ สมัยนั้นกองทัพญี่ปุ่น เกณฑ์เชลยศึกฝ่ายพันธมิตร มีทั้งทหารอังกฤษ อเมริกัน ออสเตรเลีย ฮอลันดาและนิวซีแลนด์ประมาณ 170,000 คน กรรมกรชาวชาวจีน ญวน ชวา มลายู พม่า อินเดีย อีกจำนวนมากมาก่อสร้าง ทางรถไฟสายยุทธศาสตร์นี้ ซึ่งกลายเป็นชื่อที่ควบคู่ไปกับสะพานข้ามแม่น้ำแคว สร้างให้เป็นทางผ่านไปพม่า ใช้ลำเลียงสเบียง อาวุธยุทโธปกรณ์ กำลังพล โดยมีเป้าหมายจะเข้ายึด พม่าและอินเดียต่อ ซึ่งตอนนั้นยังเป็นอาณานิคมของอังกฤษ…

แรงงานเชลยศึกและกรรมกรส่วนหนึ่งต้องจบชีวิตลง เพราะความโหดร้ายทารุณ ทั้งจากทหารญี่ปุ่น และจากภัยธรรมชาติ เพียงเพื่อสร้างทางรถไฟสายเดียวที่ยาว ไม่กี่ร้อยกิโลเมตร เกิดเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ ที่ใครๆ ก็ไม่สามารถลบ ออกไปจากความทรงจำได้ และที่กล่าวกันว่า “ทางรถไฟสายนี้ พันธมิตร ต้องสูญเสียไป 1 ศพไร้ ต่อ 1 ไม้หมอนที่รองรางรถไฟ” …

 

ตลาดพลอยเมืองกาญน์

 

นอกจากร่องรอยเส้นทางแห่งประวัติศาสตร์แล้ว ยังมีตลาดพลอยเมืองกาญจน์ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ไกลกัน ก็สามารถเดินไปหาซื้อเครื่องประดับเงิน พลอยสีสันต่างๆมากมายที่นี่ได้ ตั้งอยู่หัวมุมถนนนิวซีแลนด์บรรจบกับถนนแม่น้ำแควค่ะ ฝั่งตรงข้ามสะพานข้ามแม่น้ำแควเลย เวลาเปิดปิด 06.00 – 19.00 น.

เมืองกาญจน์ขึ้นชื่อระดับนึงนะคะ (พลอย = gems stone)

sapphire = พลอยเนื้อแข็งทั้งหมด ตระกูลคอรันดัม ได้แก่ ทับทิม ไพริน บุศราคัม เขียวส่อง ที่มีค่าความแข็ง 9 ส่วนใหญ่ถ้าเป็นพวก blue sapphire ราคาค่อนข้างสูง และปัจจุบันหายากมากค่ะ นิล (สีดำ) พวกนี้จะเกิดควบคู่กันมาราคาถูกกว่าคนมักไม่ค่อยนิยม ตลาดเมืองกาญจน์ มักขายพลอยอ่อน ซึ่งแร่ธาตุที่เมืองกาญจน์ที่พบส่วนใหญ่เป็นพวก ฟลูออไรด์ และ calcite ซึ่งความแข็งต่ำมากกก เป็นรอยขีดข่วนง่าย จะสังเกตุดูที่ขอบ ถ้าเจียรนัยแล้ว พลอยอ่อนขอบจะไม่คม มีรอยขรุขระ เล่นแสงไม่ดีเท่าไหร่ ราคาไม่สูงมาก …

นอกจากนี้ในบริเวณใกล้เคียงยังมีอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กเด็กนักศึกษาหรือผู้ที่สนใจเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในก็คือ พิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2 นะคะ และ เดี๋ยวจะรีวิวการจองที่พักกาญจนบุรีผ่าน Traveloka มาให้ด้วยเช่นกัน ยังไงขอยกยอดไปเขียนในบล็อกหน้าเพราะว่าเนื้อหาค่อนข้างเยอะค่ะ ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ ^^